ไม่อัดไม้ประกอบถือได้ว่าเป็นการใช้ประโยชน์ไม้ได้อย่างคุ้มค่าและชาญฉลาด โดยการใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีของไม้ (Wood Technology ) มาประยุกต์ใช้จากการแปรรูปไม้หรือเศษเหลือจากอุตสาหกรรมโรงเลื่อย อุตสาหกรรมเครื่องเรือนหรืออื่น ๆ นำกลับมาประกอบเป็นไม้ใหม่(Wood Reconstituted Board ) อีกทั้งเอื้ออำนวยคุณลักษณ์หลายๆ ด้าน เช่นความกว้างใหญ่ของแผ่นไม้ และความรู้ เทคโนโลยีไม้นี้ยังก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง ขึ้นตลอดเวลาเพื่อเพิ่มคุณสมบัติของแผ่นไม้อัดไม้ประกอบให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น
ไม้อัดไม้บาง (Plywood & Veneer )
ไม้อัดไม้บางนั้นผลิตควบคู่กันเพื่อใช้งานทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออกทั้งไม้อัดและไม้บาง ซึ่งในตลาดโลกมีภาวะ การแข่งขันสูงเนื่องจากผู้ผลิตรายใหญ่คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ต่างก็มาตรฐานการส่งเสริมเพื่อการส่งเสริมเพื่อการส่งออกและทุ่งปริมาณเข้าสู้ตลาดโลกอย่างมากมาย แผ่นไม้อัดนั้นเป็นที่นิยมเพราะมีคุณสมบัติที่ดีในการก่อสร้างที่เห็นได้ชัดคือแผ่นกว้างใหญ่ น้ำหนักเบาเมื่อเปรียบเทียบกับไม้จริง แต่แนวโน้มโรงงานไม้อัดไม้บางคงจะมีน้อยลงเนื่องจากไม้หายากขึ้น และภาวะ การแข่งขันในตลาดโลกสูง โรงงานที่มีอยู่จะต้องปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้สามารถปอก ( Peeling ) หรือฝาน (Slicing ) ไม้ท่อนเล็ก ๆ ได้ อีก วัตถุดิบไม้ที่ใช้ ได้แก่ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ ไม้ตองจิง ไม้จำปา ไม้สยา ไม้กะบาก ฯลฯ
การผลิตไม้อัด
ทำได้โดยการรวมไม้หลาย ๆ ชนิดเข้าด้วยกันหรือไม้ชนิดเดียวกัน โดยการตัดท่อนซุงให้มีความยาวตามที่ต้องการ แล้วกลึงปอกท่อนซุง หรือฝานให้ได้แผ่นไม้เป็นแผ่นบาง ๆ มีความหนาตั้งแต่ 1 ถึง 4 มิลลิเมตร แล้วนำมาอัดติดกันโดยใช้กาวเป็นตัวประสาน
โดยให้แต่ละแผ่นมีแนวเสี้ยน ตั้งฉากกัน แผ่นไม้จะถูกอบแห้งในเตาอบ ไม้อัดมีขนาด กว้าง 4 ฟุต ยาว 8 ฟุต หนา 4,6,8,10,15 และ 20 มิลลิเมตร ถ้าเป็นไม้อัดจากลาว จะมีสีแดงกว่าจากอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีชมพู เหลือง และสีขาว
คุณสมบัติ
1. มีความแข็งแรงทนทานสูง มีความคงตัวไม่ยืดหด และแตกง่าย
2. สามารถตอกตะปูหรือใช้ตะปูควงขันใกล้ขอบแผ่น หรือทุกส่วนได้รอบด้าน
3. สามารถตัด เลื่อย และฉลุได้ง่าย ไม่แตกหัก สามารถโค้งงอได้โดยไม่ฉีกหัก
4. เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี
5. สามารถเก็บความร้อน และเสียงได้ดีกว่าไม้ธรรมดา
6. สามารถรับน้ำหนักได้ในอัตราที่สูงกว่าไม้ธรรมดา
แผ่นไม้ประกอบ ( Composite Board )
แผ่นไม้ประกอบการใช้เศษไม้ปลายไม้ที่เหลือจากโรงเลื่อย ซึ่งสามารถผลิตได้ โดยใช้เทคโนโลยีง่าย ๆ คือ
1.แผ่นไม้ปาร์เก ( Parquet & Mosaic Parquet ) แต่เดิมนิยมผลิตจากไม้สัก ต่อมาผลิตจากไม้ยางพาราและมีการใช้ไม้โตเร็วแล้วคือ ไม้ยูคาลิปตัส การผลิตไม้ปาร์เกนี้จะขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น มีการก่อสร้างบ้านพักที่อยู่อาศัยมากขึ้น ถึงแม้จะต้องแข็งขันกับวัตดุปูพื้นอื่น ๆ เช่น กระเบื้อง ยาง หินอ่อน หินขัด ฯลฯแต่ด้วยคุณลักษณะของไม้นั้นเป็นที่นิยมมากกว่า
2.แผ่นไม้ประสาน ( Block Board ) แผ่นไม้ประสานสามารถผลิตได้ในโรงเลื่อยหรือโรงงานผลิตเครื่องเรือน โดย การนำเศษไม้เปลือยไม้จากโรงงาน มาตัดซอยให้ได้ขนาดอาจใช้การต่อปลายแบบนิ้วประสาน แล้วทากาวด้านข้างเรียงต่อกันเป็นแผ่นกว้างใหญ่ขึ้น ด้วยกรรมวิธีการผลิตง่าย ๆ และใชเศษไม้ปลายไม้ได้ประกอบกับความต้องการแผ่นไม่ประสานในตลาดทั้งถายในและนอกประเทศมีสูงขึ้นทุก ๆ ปี
วัตถุดิบไม้ที่ใช้ ได้แก่ ไม้สัก ไม้ยางพารา ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้รัง ฯลฯ
แผ่นชิ้นไม้อัด ( Particleboard )
แผ่นชิ้นไม้อัดใช้เศษไม้ปลายไม่ได้เช่นกัน มีลักษณะแผ่นชิ้นไม้อัดขนาดลดหลั่ง ( Graduated ) ชนิดแผ่นชิ้นไม้อัด 3 ชั้น (3 Layer ) และ1 ชั้น (Single – layer ) ซึ่งยังไม่มีการผลิตในประเทศ แผ่นชิ้นไม้อัดเริ่มมีบทบาทเด่นชัดขึ้นเพราะสามารถใช้ทดแทนไม่อัดได้และราคาถูกกว่าอีกด้วย แผ่นชิ้นไม้อัดมักจะนำนำมาปิดทับด้วยแผ่นพลาสติกฟอร์ไม้ก้า กระดาษตกแต่ง หรือนำมาใช้เป็นแกนกลาง ของไม้อัดเพื่อเพิ่มความหนาของไม้อัด ช่วยลดต้นทุนการผลิตไม้อัดแผ่นชิ้นไม้อัดบางชนิดมีรูตรงกลาง เพื่อลดปริมาณและน้ำหนัก อีกทั้งใช้เป็นสองทางสอดท่อน้ำ สายไฟ และฉนวนกันความร้อนได้ด้วย การผลิตแผ่นชิ้นไม้อัดนี้จะขยายตัวมากขึ้นตามความต้องการในการก่อสร้างการผลิตเครื่องเรือน และการนำไปเป็นแกนกลางของไม้อีกดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้เทคโนโลยี การผลิตแผ่นชิ้นไม้อัดยังได้พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นจนเทียบเท่าไม้อัดและไม้จริงคือ
1. แผ่นเวเฟอร์บอร์ด( Waferboard )
แผ่นเวเฟอร์บอร์ดนี้ใช้ชิ้นไม้ขนาดเล็กบางๆ เรียกว่าเกล็ดไม้ ( Flake ) มีทั้ง ลักษณะสี่เหลี่ยมจัตุรัสและสี่เหลี่ยมผืนผ้าซึ่งแบ่งย่อยเป็นชนิด Single – layer Waferboard , 3-layer Waferboard และชนิดพิเศษคือ Waferboard – plus ตามลักษณะของเกล็ด ไม้และ เลียงตัวโดยมีกาวเป็นสารเกาะยึด ซึ่งแผ่นเวเฟอร์บอร์ดที่ได้นี้จะมีคุณสมบัติ ที่เทียบเท่าหรือดีกว่า แผ่นไม้อัด
2. แผ่นเกล็ดไม้อัดเรียงชิ้น ( Oriented Strand Board ,OSB)
แผ่นเกล็ดไม้อัดเรียงชิ้นนี้ผลิตจากชิ้นไม้ที่มีลักษณะบางแบนและมีความยาวมากเมื่อเทียบกบความกว้าง เรียกว่า Strands โดยนำมาเรียงชิ้นเป็นแผ่น 3 ชั้น คือผิวหน้าด้านนอกสองข้างจะเรียงตามความยาวแผ่น ส่วนแกนกลลางจะเรียงตามขวางเช่นเดียวกับลักษณะไม้อัดทให้มีความแข็งแรงและความทนทานสูงใช้ทดแทนแผ่นไม้อัดได้เช่นเดียวกัน ดังกล่าวนี้แผ่นชิ้นไม้อัดสามารถที่จะใช้เศษไม้ปลายไม้หรือไม้ท่อน เล็กๆ ได้และยังมีแหล่งวัตถุดิบที่มีอยู่มากคือไม้ยางพาราและไม้โตเร็วในอนาคต อีกทั้งแนงโน้มการสร้างโรงงานแผ่นชิ้นไม้อัดไม่ว่าชนิดใดจะกระจายตัวออกไปตามแหล่งวัตถุดิบไม้ ย่อมทำให้เกิดการจ้างแรงงานช่วยกระจายได้ให้แก่ชนบทต่อไป วัตถุดิบไม้ที่ใช้ ได้แก่ ไม้ยางพารา ไม้ยูคาลิปตัส เป็นต้น
แผ่นใยไม้อัด ( Fiberboard )
แผ่นใยไม้อัดนี้สามารถผลิตแผ่นไม่ให้ทดแทนแผ่นไม้อัดไม้ประกอบอื่น ๆ ได้ดีโดยเฉพาะแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง ( MDF ) ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงธรรมชาติและสามารถเพิ่มคุณค่าให้สูงขึ้นโดยการปิดทับด้วยไม้บาง กระดาษตกแต่งฟอร์ ไมก้า เครือบเมลามีนแผ่นวัตถุกันความร้อน หรือการพิมพ์สีสลักลายลงบนพื้นผิว
นอกจากนี้แผ่นยไม้อัดยังสามารถที่จะนำพืชเส้นใยทางเกษตรมาใช้ได้หลายชนิดนับว่าเป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการเกษตร หรืออุตสาหกรรมต่อเนื่องจากโรงเลื่อย โรงงานไม้อัดโดนนำเศษเหลือมาใช้ได้
แผ่นใยไม้อัดนี้สามารถจำแนกได้ ความหนาแน่นเป็น 2 กลุ่ม 5 ชนิดด้วย กัน คือ
- แผ่นใยไม้อัดอ่อน หรือแผ่นใยไม้ฉันฉนวน (S oftboard or Insulaion Board )
แบ่งออกเป็น 2 ชนิด
- Semi-rigid Insulaion Board
- Rigid Insulaion Board
แผ่นไม้อัดอ่อนใช้เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียง ใช้ทำฝาเพดานผนังห้อง
ประชุมโดงมหรสพ ห้องเสียง ห้องสมุด และสำนักงาน ซึ่งยังไม่มีการผลิตในประเทศต้องนำเข้ามาจากญี่ปุ่น
- แผ่นใยไม้อัดแข็ง ( Hardboard ) แบ่งออกได้ 3 ชนิด
- แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปลานกลาง( Intermediate or medium Density Fiberboard,MDF ) แผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลางสามารถใช้ไม้ยูคา ลิปตัส เศษไม้ปลายไม้ชนิดต่าง ๆและชานอ้อยเป็นวัตถุดิบได้เช่นเดียวกัน แผ่นใยไม้อัดชนิดนี้มีคุณสมบัติใก้ลเคียงไม้ธรรมชาติ ซึ่งมีความต้องการมางทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศ และมีการผลิตเป็นเครื่องเรือน และได้ราคาดีกว่าเครื่องเรือนจากแผ่นชิ้นไม้อัดที่มีเกรดดีที่สุดถึง 20 %-50%
- แผ่นใยไม้อัดแข็ง (H ardboard ) แผ่นใยไม้อัดแข็งนี้สามารถใช้ไม้ยูคาลิปตัส เศษไม้ปลายไม้ และพืชเส้นใยพวกชานอ้อย แผ่นใยไม้อัดแข็งนัมีความต้องการทั้งตลาดภายในประเทศสูง
- แผ่นใยไม้อัดแข็งชนิดพิเศษ ( Special Densifi Hardboard ) เป็นแผ่นใยไม้อัด เศษไม้ปลายไม้ เส้นใยพวกชานอ้อย แผ่นใยไม้อัดแข็งนี้มีความต้องการทั้งตลาดภายในและภายนอกประเทศสูงขึ้น
แผ่นไม้อัดสารแร่ ( Wood Mineral-bonded Panel )
แผ่นไม้อัดสารแร่นั้นเป็นการยึดเกาะของไม้กับสารแร่ เช่น ซีเมนต์ ยิปซัม เป็นต้น กับไม้ชิ้นเล็กๆ เช่น ฝอยไม้ ( Wood ) ชิ้นไม้ ( Panicle ) ใยไม้ ( Fiber ) เป็นต้น และเส้นใยทางเกษตรได้แผ่นไม้อัดสารแร่ในปัจจุบันอาจจำแนกได้ 3 กลุ่ม คือ
1. แผ่นไม้อัดซีเมนต์ แบ่งย่อยได้ 3 ชนิด
1.1 แผ่นฝอยไม้อัดซีเมนต์ ( Wood-wool Cement Board ) วัตถุดิบไม้ที่ใช้คือไม้สมพง
1.2 แผ่นชิ้นไม้อัดซีเมนต์ ( Cement bonded Particleboard ) วัตถุดิบไม้ที่ใช้คือ ไม้ยูคาลิปตัส คามาลดูเลนซีส
1.3 แผ่นใยไม้อัดซีเมนต์ ( Cement bonded Fiberboard ) ยังไม่มีการผลิตขึ้นในประเทศ
2. แผ่นไม้อัดยิปซัม ( Wood Gypsum Board ) แบ่งย่อยได้เป็น 2 ชนิด
2.1 แผ่นชิ้นไม้อัดยิปซัม ( Gypsum Particleboard )
2.2 แผ่นใยไม้อัดยิปซัม ( Gypsum Fiberboard )
แผ่นไม้อัดยิปซัมนี้มีการผลิตขึ้นเพื่อการค้าแล้วในประเทศเยรมัน ส่วนในประเทศยังไม่มีการผลิตซึ่งในอนาคตน่าจะผลิตขึ้นได้ เนื่องจากมีแร่ยิปซัมที่มีปริมาณมากเพียงพอและมีคุณภาพความบริสุทธิ์ดีมากแห่งหนึ่งของโลกด้วย
3. แผ่นไม้อัดสารอื่นๆ ( Other Wood Mineral-bonded Panel )
แผ่นไม้อัดสารแร่อื่นๆ ที่น่าสนใจชนิดหนึ่งคือ Ecocem ซึ่งเป็นชื่อการค้าผลิตโย Raute ของประเทศฟินแลนด์โดยใช้ส่วนผสมของขี้ตะกรัมผงกากเตาถลุงเหล็ก ( Blastfurnace Slag ) ซึ่งได้จากโรงงานถลุงเหล็กกับชิ้นไม้ ซึ่งยังไม่มีการผลิตในประเทศเช่นกัน
DYM FURNITURE ต้องขอขอบคุณข้อมูลจาก สำนักวิจัยการจัดการป่าไม้และผลิตผลป่าไม้ กรมป่าไม้. 2547. อย่างยิ่งด้วยครับที่ให้ความรู้เเก่เรา